Page 12 - 6_เอกสาร รายงานสรุปสังเคราะห์ซีนอด ภาษาไทย
P. 12

a)  การเข้ามาเป็นคริสตชนคือการเดินทางที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแนะนำเราให้รู้จักกับความเชื่อแห่งปัสกาและนำ

                       เราเข้าสู่ความเป็นหนึ่งเดียวในตรีเอกานุภาพและเอกภาพของพระศาสนจักรผ่านทางพันธกิจของพระศาสนจักร

                       การเดินทางครั้งนี้มีหลากหลายรูปแบบโดยขึ้นอยู่กับอายุที่ก้าวดำเนินไปและการเน้นที่แตกต่างกันของลักษณะ
                       ของธรรมประเพณีตะวันออกและตะวันตก อย่างไรก็ตาม การฟังพระวาจาและการกลับใจของชีวิต การเฉลิม

                       ฉลองพิธีกรรม และการเข้าไปอยู่ในชุมชนและพันธกิจนั้นมีเกี่ยวพันกันอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ การเดินทางของผู้ที่
                       เตรียมตัวเข้าเป็นคริสตชนอย่างความค่อยเป็นค่อยไปของขั้นตอนและขั้นตอนต่างๆ เป็นแบบอย่างสำหรับทุก

                       ประสบการณ์ของพระศาสนจักรในการก้าวเดินร่วมกัน
                   b)  การเข้ามาเป็นสมาชิกนำเราไปสู่การติดต่อกับกระแสเรียกและพันธกิจของพระศาสนจักรที่หลากหลาย ทั้งหมด

                       นี้แสดงถึงโฉมหน้าพระศาสนจักรผู้เป็นมารดา ซึ่งเป็นวิถีทางแห่งการเป็นผู้สอนให้ลูก ๆ เดินโดยเดินร่วมทางไป

                       กับพวกเขา พระศาสนจักรจะรับฟังพวกเขา และในขณะที่พวกเขาตอบสนองท่ามกลางความสงสัยและคำถาม
                       ของพวกเขา เป็นเสมือนความแปลกใหม่ที่แต่ละคนนำเข้ามาด้วยผ่านประวัติศาสตร์ ภาษา และวัฒนธรรมของ

                       พวกเขาและเธอ ผ่านการดำเนินการอภิบาลนี้ ชุมชนคริสตชนได้พบกับการก้าวเดินไปด้วยกันเป็นครั้งแรกโดย

                       ไม่ได้ตระหนักรู้อย่างเต็มที่
                   c)  “เดชะพระจิตเจ้าพระองค์เดียว เราทุกคนจึงได้รับการล้างมารวมเข้าเป็นร่างกายเดียวกัน” (1โครินธ์ 12:13)

                       ดังนั้น ในบรรดาผู้รับศีลล้างบาปทุกคนจึงมีความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริงในศักดิ์ศรีและมีความรับผิดชอบ

                       ร่วมกันในพันธกิจตามกระแสเรียกของแต่ละคน ด้วยการเจิมของพระจิตเจ้าผู้ทรง “นั้นสอนทุกสิ่ง” (1ยน 2:27)
                       ผู้ที่มีความเชื่อทุกคนมีสัญชาตญาณในการบอกความจริงแห่งข่าวดี ตามจิตสำนึกในความเชื่อ (sensus fidei)

                       ประกอบด้วยพินิจพิจารณาบางอย่างกับความเป็นจริงของพระเจ้า และความสามารถที่จะเข้าใจสิ่งที่สอดคล้อง
                       กับความจริงแห่งความเชื่อโดยสัญชาตญาณ กระบวนการซีนอดเพิ่มพูนพระพรนี้ทำให้สามารถยืนยันการดำรง

                       อยู่ด้วยฉันทามติของสัตบุรุษผู้มีความเชื่อ (consensus fidelium) กระบวนการนี้ให้เกณฑ์ที่แน่นอนในการ

                       พิจารณาว่าเป็นไปตามหลักข้อความเชื่อนั้นหรือไม่ หรือการปฏิบัติตามข้อความเชื่อของอัครสาวก
                   d)  พระหรรษทานของวันที่พระจิตเจ้าเสด็จลงมาดำรงอยู่ในพระศาสนจักรผ่านทางศีลกำลัง พระหรรษทานนี้ทำให้

                       สัตบุรุษผู้มีความเชื่อได้รับของพระพรแห่งพระจิตเจ้าอย่างอุดมบริบูรณ์ เรียกร้องให้พวกเขาพัฒนากระแสเรียก
                       เฉพาะของตน ซึ่งมีรากฐานมาจากศักดิ์ศรีแห่งความเท่าเทียมกันแห่งศีลล้างบาปในการรับใช้งานแพร่ธรรม

                       ความสำคัญของสิ่งนี้จำเป็นต้องเน้นมากขึ้นและจำเป็นต้องอยู่ในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของ

                       พระพรพิเศษและงานพันธกิจที่ก่อตัวเป็นโฉมหน้าของพระศาสนจักร
                   e)  การเฉลิมฉลองพิธีบูชาขอบพระคุณแห่งศีลมหาสนิทโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันอาทิตย์ เป็นรูปแบบพื้นฐานแรกซึ่ง

                       บรรดาประชากรศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้ามารวมตัวกันและพบปะกัน แต่เมื่อเป็นไปไม่ได้ ชุมชนจะปรารถนาให้ศีล

                       มหาสนิทรวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองในภาควจนพิธีกรรม ในภาคพิธีรับศีลมหาสนิท เราเฉลิมฉลองพระธรรมล้ำ
                       ลึกแห่งพระหรรษทานซึ่งประทานแก่เรา โดยการเรียกเราให้มีส่วนร่วมในพระกายและพระโลหิตของพระองค์

                       องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหล่อหลอมเราให้เป็นกายเดียวร่วมกันและกัน และร่วมกันกับพระองค์เอง เริ่มต้นด้วยการ

                       ใช้คำของท่านนักบุญเปาโลว่า การรวมเป็นหนึ่งเดียว koinonia (เทียบ 1 โครินธ์ 10:16-17) ธรรมประเพณี

               12
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17