Page 16 - 6_เอกสาร รายงานสรุปสังเคราะห์ซีนอด ภาษาไทย
P. 16

g)  คริสตชนมีหน้าที่จะผูกมัดตนในการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างความดีส่วนรวมและปกป้องศักดิ์ศรีแห่ง

                       ชีวิต โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร และทำงานร่วมกันในรูปแบบต่างๆ ผ่าน

                       การมีส่วนร่วมในองค์กรภาคประชาสังคม สหภาพแรงงาน ขบวนการเคลื่อนไวของประชาชน องค์กรระดับราก
                       หญ้า ในเรื่องทางการเมือง และในด้านอื่นๆ พระศาสนจักรรู้สึกขอบคุณกลุ่มเหล่านี้อย่างสุดซึ้ง ที่ชุมชนมีหน้าที่

                       สนับสนุนผู้ที่ทำงานในสาขาเหล่านี้ด้วยจิตวิญญาณแห่งความรักและการรับใช้อย่างแท้จริง การกระทำของพวก
                       เขาเป็นส่วนหนึ่งในพันธกิจของพระศาสนจักร ในการประกาศข่าวดีและโดยนำไปสู่การมาถึงของพระอาณาจักร

                       ของพระเจ้า
                   h)  ชุมชนคริสเตชนพบกับพระพักตร์และพระกายของพระคริสตเจ้า ผู้ซึ่งแม้ทรงร่ำรวย พระองค์ก็ยังทรงยอม

                       กลายเป็นคนยากจนเพราะเห็นแก่ท่าน เพื่อท่านจะได้ร่ำรวยเพราะความยากจนของพระองค์ (เทียบ 2 โครินธ์

                       8:9) นั่นไม่ใช่เพียงแค่จะอยู่ใกล้ชิดพวกเขาเท่านั้น แต่ต้องเรียนรู้จากพวกเขา ถ้าการประชุมซีนอดหมายถึงการ
                       ก้าวเดินทางร่วมกับพระองค์ผู้ทรงเป็นหนทางนั้น พระศาสนจักรที่ก้าวไปด้วยกันจำเป็นต้องทำให้ผู้คนที่ประสบ

                       ความยากจนกลายเป็นศูนย์กลางของชีวิตทุกด้าน จากความทุกข์ทรมานที่พวกเขาได้รับ พวกเขาจึงได้รู้จักพระ

                       คริสตเจ้าผู้ทุกข์ทรมาน (เทียบ Evangelii Gaudium ข้อ 198) ความคล้ายคลึงในชีวิตของพวกเขากับชีวิตของ
                       องค์พระผู้เป็นเจ้าทำให้คนยากจนเป็นผู้ประกาศความรอดพ้น ได้รับเป็นพระพรและเป็นประจักษ์พยานถึง

                       ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร


                   เรื่องที่ต้องพิจารณา



                   i)  ในบางพื้นที่ของโลก พระศาสนจักรนั้นยากจน อยู่กับคนยากจน และอยู่เพื่อคนยากจน มีความเสี่ยงที่ต้อง
                       หลีกเลี่ยงอย่างระมัดระวังในการมองผู้ที่ดำเนินชีวิตอยู่ในความยากจนในแง่ของ “พวกเขา” และ “พวกเรา”

                       ในฐานะ “วัตถุ” เพื่อการช่วยเหลือของพระศาสนจักร การให้ผู้ที่ประสบความยากจนเป็นศูนย์กลางและการ

                       เรียนรู้จากพวกเขาเป็นสิ่งที่พระศาสนจักรต้องทำมากขึ้นเรื่อย ๆ
                   j)  การประกาศปฏิเสธสถานการณ์ความไม่ยุติธรรม และความพยายามที่จะโน้มน้าวผู้กำหนดนโยบายให้

                       ดำเนินการเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งต้องใช้การทูต ในอีกด้านหนึ่งจะต้องคงอยู่ในความตึงเครียดที่เคลื่อนไหว
                       อยุ่เสมอเพื่อไม่ให้สูญเสียจุดสนใจที่ชัดเจนหรือผลลัพธ์ที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่า

                       การใช้เงินทุนสาธารณะหรือเงินทุนส่วนตัวโดยองค์กรของพระศาสนจักรไม่ได้จำกัดเสรีภาพในการพูด เพื่อข้อ

                       เรียกร้องตามพระวรสาร
                   k)  การให้บริการในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และสวัสดิการสังคมโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติหรือกีดกันใคร

                       เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของพระศาสนจักรที่ส่งเสริมการบูรณาการและการมีส่วนร่วมของผู้เปราะบางมากที่สุดใน
                       พระศาสนจักรและสังคม มีองค์กรต่าง ๆ ที่กระตือรือร้นในเรื่องนี้ ได้รับการสนับสนุนให้พิจารณาตนเองว่าเป็น

                       การแสดงออกของชุมชนคริสตชนและเพื่อหลีกเลี่ยงการช่วยเหลือที่ไม่มีตัวตน นอกจากนี้ พวกเขายังได้รับการ

                       กระตุ้นให้สร้างเครือข่ายและประสานงานกับผู้อื่น อีกด้วย



               16
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21