Page 50 - 6_เอกสาร รายงานสรุปสังเคราะห์ซีนอด ภาษาไทย
P. 50
b) ในแนวทางคำสั่งสอนล่าสุดของพระศาสนจักร (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Lumen gentium และ Evangelii
gaudium) ความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนในพันธกิจนี้จะต้องเป็นเกณฑ์ที่เป็นรากฐานของโครงสร้างของ
ชุมชนกลุ่มคริสตชนและพระศาสนจักรท้องถิ่นในการรับใช้ทั้งหมด ในทุกสถาบัน ในกลุ่มคนแต่ละส่วนของงาน
อภิบาล (เทียบ 1 โครินธ์ 12:4-31) การรับรองฆราวาสอย่างเหมาะสมสำหรับพันธกิจในโลกนี้ ไม่สามารถเป็น
ข้ออ้างในการโอนการดูแลชุมชนกลุ่มคริสตชนให้กับบิชอปและบาทหลวงให้ดูแลกันตามลำพัง
c) พลังอำนาจที่เป็นเลิศนั้นเป็นของพระวาจาของพระเจ้า ซึ่งจะต้องสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกการประชุมของ
กลุ่มคนที่มีส่วนร่วม ทุกการปรึกษาหารือ และทุกกระบวนการตัดสินใจ เพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้น การประชุมจะต้อชัก
นำความหมายและความเข้มแข็งจากศีลมหาสนิท และเกิดขึ้นท่ามกลางแสงสว่างแห่งพระวาจาที่ได้รับฟังและ
แบ่งปันกันในการสวดภาวนาในทุกระดับ
d) องค์ประกอบของสภาต่างๆ เพื่อการไตร่แยกแยะและการตัดสินใจของชุมชนธรรมทูตแห่งการก้าวเดินไป
ด้วยกัน จะต้องจัดให้มีชายและหญิงที่มีอุปนิสัยเป็นอัครสาวกอยู่ด้วย โดยไม่ได้แยกความแตกต่างจากการ
ปรากฏตัวในพระศาสนจักรบ่อยครั้ง แต่โดยการเป็นประจักษ์พยานแห่งการประกาศข่าวดีในชีวิตปกติอย่าง
แท้จริง ประชากรของพระเจ้าล้วนเป็นธรรมทูตกันมากขึ้นเมื่อพวกเขาสามารถทำให้เสียงของผู้ที่ดำเนินพันธกิจ
อยู่แล้ว โดยการมีอยู่ในโลกและชายขอบของโลกที่ดังก้องยู่ในตัวพวกเขาเองตัว รวมถึงกลุ่มคนที่เข้ามามีส่วน
ร่วม
เรื่องที่ต้องพิจารณา
e) จากสิ่งที่พวกเราได้แบ่งปัน สิ่งสำคัญคือต้องถามว่าพวกเราจะส่งเสริมการมีส่วนร่วมในสภาต่าง ๆ ได้อย่างไร ใน
เมื่อหลาย ๆ คนรู้สึกว่าตนยังไม่พร้อมสำหรับงานนี้ การก้าวเดินไปด้วยกันเจริญเติบโตขึ้นเมื่อสมาชิกแต่ละคนมี
ส่วนร่วมในกระบวนการและการตัดสินใจสำหรับพันธกิจของพระศาสนจักร ในส่วนนี้พวกราได้รับกำลังใจจาก
ชุมชนกลุ่มคริสตชนเล็ก ๆ จำนวนมากในพระศาสนจักรใหม่ ๆ ผู้ซึ่งดำเนินชีวิตอย่างใกล้ชิดกันในแต่ละวัน
โดยรอบล้อมพระวาจาของพระเจ้าและศีลมหาสนิท
f) ใน Amoris Laetitia สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงมอบหมายให้พระศาสนจักรเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบ
ขององค์กรที่มีส่วนร่วม งานนี้ไม่อาจล่าช้าไปกว่านี้ได้ การมีส่วนร่วมของชายและหญิงที่รับศีลล้างบาปซึ่งดำเนิน
ชีวิตในสถานการณ์ที่ซับซ้อนของความสัมพันธ์แห่งความรัก “สามารถแสดงออกได้ในศาสนบริการต่าง ๆ ซึ่ง
จำเป็นต้องไตร่ตรองแยกแยะว่ารูปแบบใดในหลายรูปแบบที่ยังกีดกัน ซึ่งยังคงถือปฏิบัติกันอยู่ในขณะนี้ ทั้งใน
ด้านพิธีกรรม งานอภิบาล การศึกษา และสถาบัน ที่ควรจะก้าวข้ามไปได้” (299) การไตร่ตรองแยกแยะนี้ยัง
เกี่ยวข้องกับการกีดกันพวกเขาออกจากกลุ่มองค์กรการมีส่วนร่วมของชุมชนวัดและสังฆมณฑลตาม
ประสบการณ์ในพระศาสนจักรท้องถิ่นบางแห่ง
g) จากมุมมองที่พิเศษของความเป็นเอกภาพของพระศาสนจักร พวกเราจะผสมผสานแง่มุมของการปรึกษาหารือ
และการพิจารณาอย่างรอบคอบของการก้าวไปด้วยกันได้อย่างไร เมื่อพิจารณาถึงของพระพรอันทรงพลังและ
50

