Page 35 - 6_เอกสาร รายงานสรุปสังเคราะห์ซีนอด ภาษาไทย
P. 35

i)  ความไม่แน่นอนที่แวดล้อมด้านเทววิทยาของสังฆานุกรได้เกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่ว่าสังฆานุกรเพิ่งได้รับการ

                       ฟื้นฟูให้เป็นพันธกิจที่มีลำดับชั้นที่ชัดเจนและถาวรในพระศานจักรละตินนับตั้งแต่สภาสังคายนาวาติกันครั้งที่

                       สอง การศึกษาเชิงลึกมากขึ้นจะให้ความกระจ่างเกี่ยวกับคำถามเกี่ยวกับการให้สตรีสามารถบวชเป็นสังฆานุกร
                       ได้

                   j)    มีการทบทวนการอบรมผู้ที่เตรียมรับศีลบวชอย่างละเอียดถี่ถ้วนโดยคำนึงถึงมิติมิชการเป็นธรรมทูตและมิติ
                       การก้าวเกินไปด้วยกันของพระศาสนจักร ซึ่งหมายถึงการทบทวนระบบพื้นฐานการอบรม Ratio

                       fundamentalis ที่กำหนดการจัดรูปแบบมีโครงสร้างอย่างไร นอกจากนี้พวกเรายังแนะนำในเวลาเดียวกันให้
                       แน่ใจว่ามีการนำรูปแบบการประชุมซีนอดไปใช้ เมื่อกล่าวถึงการอบรมต่อเนื่องของบรรดาบาทหลวงและ

                       สังฆานุกร

                   k)  ความโปร่งใสและวัฒนธรรมแห่งการตรวจสอบได้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพวกเราในการก้าวไปข้างหน้าใน
                       การพระศาสนจักรที่ก้าวเดินไปด้วยกัน พวกเราขอให้พระศาสนจักรท้องถิ่นระบุกระบวนการและโครงสร้างที่

                       ช่วยให้มีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอว่าบาทหลวงและสังฆานุกรดำเนินการตามบทบาทความรับผิดชอบใน

                       การปฏิบัติงานอภิบาลของตนอย่างไร สถาบันที่มีอยู่ เช่น องค์กรที่มีส่วนร่วมหรือการอภิบาลเยี่ยมเยียน อาจ
                       เป็นจุดเริ่มต้นของงานนี้ โดยช่วยดูแลให้ชุมชนมีส่วนร่วม รูปแบบดังกล่าวจะต้องปรับให้เข้ากับบริบทท้องถิ่น

                       และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคหรือภาระของทางส่วนกลาง การไตร่แยกแยะประเภทของ

                       กระบวนการที่สามารถพิจารณาได้ในระดับภูมิภาคหรือระดับทวีป
                   l)  ในแต่ละกรณีไปและตามบริบท ควรพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการส่งบาทหลวงที่ลาออกจากพันธกิจกลับ

                       เข้ามาใหม่เพื่อทำหน้าที่อภิบาลรับใช้โดยคำนึงถึงการอบรมและประสบการณ์ของพวกเขา


               12. บิชอปในความเป็นเอกภาพของพระศาสนจักร

                   จุดบรรจบของความแตกต่าง


                   a)  ตามคำกล่าวของสภาสังคายนาวาติกันครั้งที่สอง บิชอปในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งจากอัครสาวกมีหน้าที่รับใช้

                       ในเอกภาพซึ่งเกิดขึ้นจริงในพระศาสนจักรท้องถิ่น ท่ามกลางพระศาสนจักรต่าง ๆ และกับพระศาสนจักรทั้ง

                       ครบ ดังนั้นภาพลักษณ์ของบิชอปจึงสามารถเข้าใจได้อย่างเพียงพอเฉพาะในโครงข่ายความสัมพันธ์ที่ถักทอจาก
                       ส่วนของประชากรของพระเจ้าที่มอบให้ท่าน คณะสงฆ์และสังฆานุกร ผู้ที่ปฏิญาณตน และบิชอปท่านอื่นๆ และ

                       บิชอปแห่งกรุงโรม และคำนึงถึงแนวทางต่อพันธกิจอย่างเสมอมา

                   b)  ในพระศาสนจักรของท่าน บิชอปเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการประกาศพระวรสารและพิธีกรรม ท่านแนะนำ
                       ชุมชนคริสตชนละส่งเสริมการดูแลอภิบาลคนยากจนและปกป้องผู้ที่เปราะบางที่สุด ท่านเป็นหลักธรรมแห่ง

                       ความเป็นหนึ่งเดียวกันที่มองเห็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ภารกิจของการไตร่ตรองแยกแยะและประสานงานจิตตา
                       รมณ์และงานอภิบาลต่าง ๆ ที่พระจิตเจ้าทรงส่งมาเพื่อประกาศพระวรสารและเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของ

                       ชุมชน พันธกิจนี้บรรลุผลในลักษณะการประชุมซีนอดเมื่อการปกครองดูแลมาพร้อมกับความรับผิดชอบร่วมกัน



                                                                                                               35
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40